ผลบอล ย้อนหลัง ถ้า “โมฮาเหม็ด ซาลาห์” แห่งหงส์แดงลิเวอร์พูลที่ว่าฮ็อตในวงการลูกหนัง ตอนนี้ “นายฮ้อย ซาลาห์” ก็ร้อนแรงไม่แพ้กัน แต่เป็นเซเลบจอมรีวิวอาหารและสถานที่ท่องเที่ยว ประจำ Wongnai
หลายคนคงเคยเห็นหน้าค่าตาของ “นายฮ้อย ซาลาห์” มาบ้างแล้ว จากคลิปวิดีโอแจกสูตรทำอาหารของ Wongnai Cooking ไม่ว่าจะเป็นสูตรขนมจีนน้ำเงี้ยว หรือไก่อบฟาง รวมถึงเป็นนักรีวิวประจำรายการ “นายฮ้อยชวนชิม” พาไปตระเวนชิมเมนูจากร้านดัง
ด้วยคาแร็คเตอร์ของนายฮ้อยซาลาห์ที่มีมาดนิ่ง ขรึม ที่สำคัญดันมีใบหน้าที่คล้ายคลึงกับ “โมฮาเหม็ด ซาลาห์”ดาวยิ่งของหงส์แดงลิเวอร์พูล ทำให้นายฮ้อย ซาลาห์กลายเป็นเซเลบประจำ Wongnai เป็นที่เรียบร้อย
ทาง Brand Inside ก็ไม่รอช้า ที่จะพาทุกๆ คนมาทำความรู้จักนายฮ้อยซาลาห์เพิ่มเติมแบบ Exclusive ที่แรก ที่เดียวอาจจะทำให้คุณหลงรักมากขึ้นกว่าเดิม หรือหมั่นไส้ไปเลยก็เป็นได้
นายฮ้อย ซาลาห์ : ผมถูกทักผิดบ่อยๆ เป็นประจำจนชินตั้งแต่สมัยปี 1969 ที่ผมไปดูคอนเสิร์ต Woodstock ที่ White Lake, New York คนก็เข้ามาทักว่าผมเป็น Jimi Hendrix ทั้งๆ ที่เขากำลังโซโล่กีต้าร์อยู่บนเวที หรือแม้กระทั่งปี 1998 ที่ผมเดินทางไปเวนิส แคว้นเวเนโต ประเทศอิตาลีกับเพื่อนสาว ณ ขณะนั้นคนก็ดึงตัวผมไปถ่ายรูปเพราะคิดว่าผมคือ Lenny Kravitz ทั้งๆ ที่ตอนนั้นเขาเดินทางไปเล่นคอนเสิร์ตที่ Brixton Academy, London ชัดๆ
ก่อนหน้านี้ ยังมีคนบอกว่าผมเหมือน Donald Glover เจ้าของผลงาน Childish Gambino – This Is America ที่กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในเวลานี้
จนมาถึงตอนนี้ที่คนชอบมาทักว่าผมหน้าคล้ายนักฟุตบอลทีมสีแดงๆ คนหนึ่ง ผลบอล ย้อนหลัง ซึ่งถ้าคุณมองตาผมดีๆ ผมมีเสน่ห์กว่าพวกเขาเหล่านั้นด้วยซ้ำ
นายฮ้อย ซาลาห์ : จริงๆ ผมไม่ค่อยดูฟุตบอลสักเท่าไหร่ ผมรู้สึกว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่เสียเวลาในการดูฝูงคนวิ่งพล่านเพื่อฟุตบอลลูกเดียว อีกทั้งยังเป็นเกมที่ค่อนข้างป่าเถื่อนและรุนแรง ซึ่งขัดกับคาแรกเตอร์ของผม แต่ถ้าให้เดาเล่นๆ ทีมเรอัล มาดริดพวกเขามีประสบการณ์มากมายในถ้วยแชมเปี้ยนลีก ดีกรีแชมป์ 12 สมัย ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ด้วยคุณภาพที่มี พวกเขารู้วิธีจัดการกับเกมในสถานการณ์ต่างๆ นั่นเป็นข้อได้เปรียบ
แต่สำหรับลิเวอร์พูลนั้นตรงข้ามกัน พวกเขามาด้วยความร้อนแรง โดยเฉพาะศูนย์หน้าสามประสาน มาเน่, ฟีมิโน่, ซาลาห์ พวกเขามีคุณภาพไม่แพ้ทีมไหนในชั่วโมงนี้ และนี่คือทีมจากพรีเมียร์ลีกหนึ่งเดียวที่มาไกลที่สุด ถ้าจะให้ฟันธง สถิติมันบอกอยู่แล้วว่าเจอเก้น คล็อปแพ้นัดชิงมาตลอด
นายฮ้อย ซาลาห์ : คำถามแบบนี้มันก็เหมือนไก่ กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ลางเนื้อชอบลางยา อย่างที่บอก… ปกติผมไม่ดูฟุตบอล ผมตอบไม่ได้หรอก แต่ถ้าหากเปรียบเทียบจากถ้วยแชมป์ละก็ เมสซีจะดูเหนือกว่าโรนัลโด้เล็กน้อย เนื่องจากเขาอยู่กับบาร์เซโลนาตั้งแต่ยุครุ่งเรืองตอนเขายังเด็กๆ
โดยโรนัลโด้โด่งดังกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดก่อนย้ายมาเล่นให้กับเรอัล มาดริด จนถึงปัจจุบันเขาพาทีมคว้าแชมป์รวมทั้งสิ้น 19 รายการโดยหลักๆ แบ่งเป็น พรีเมียร์ลีก 3 สมัย ลาลีกา 1 สมัย และแชมเปียนส์ลีก 3 สมัย ขณะที่ เมสซี กวาดแชมป์ลาลีกาไปถึง 8 สมัย และแชมเปียนส์ลีกอีก 4 สมัยเข้าให้แล้ว
แต่ในระดับทีมชาติ โรนัลโด้ข่มเมสซีอย่างแน่นอน เนื่องจากเขาพาทีมชาติโปรตุเกสคว้าแชมป์ยูโร 2016 ไปครองเป็นสมัยแรก ขณะที่เมสซีพาทีมชาติอาร์เจนตินาเป็นแค่พระรองไม่ว่าจะเป็นรองแชมป์โลก หรือจะเป็นรองแชมป์โกปา อเมริกาเท่านั้น
นายฮ้อย ซาลาห์ : ถ้าไม่ทำงาน… เวลาผมว่างมักจะไปหาร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ใหม่ๆ โพสต์ภาพสถานที่สวยๆ ลง IG รวมถึงออกแบบมุมตกแต่งบ้าน ปลูกต้นไม้กับเลี้ยงปลาคาร์ฟในบ่อเล็กๆ ส่วนตัว รวมไปถึงใช้เวลาอยู่กับเจ้าแมวพันธุ์เปอร์เซียที่ชื่อลินการ์ดที่มีแฟนคลับมอบให้ผม
นายฮ้อย ซาลาห์ : ผมไม่เคยเซ็ตผม หรือแต่งตัวนานเลย ผมต้องการจะทำให้ชีวิตมันเรียบง่าย เพื่อจะได้ตัดสินใจให้น้อยที่สุดกับทุกๆ เรื่องยกเว้นเรื่องการทำงาน หรือเรื่องสำคัญๆ และลดการตัดสินใจเรื่องที่ไม่จำเป็นลงให้น้อยที่สุด การตัดสินใจแต่ละครั้งของผมจะมีผลต่อสิ่งที่ฝรั่งเรียกกันว่า Willpower
ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่ Willpower เหลืออยู่นิดเดียว ผลบอล ย้อนหลัง เราจะเผชิญสิ่งที่เรียกว่า Decision Fatigue ซึ่งแปลตรงตัวว่าความเหนื่อยล้าจากการตัดสินใจ เมื่อเราอยู่สภาวะนี้ โอกาสที่เราจะตัดสินใจผิดพลาดยิ่งมีสูงขึ้น คนอย่างสตีฟ จ็อบ หรือซักเคอร์เบิร์กจึงพยายามจำกัดเรื่องที่ต้องตัดสินใจให้เหลือเท่าที่จำเป็นจริงๆ คุณลองสังเกตสิ พวกเขาชอบใส่ชุดซ้ำๆ เหมือนผมนั้นเอง
นายฮ้อย ซาลาห์ : ถ้าถามว่าชอบผู้หญิงแบบไหน จริงๆ แล้วไม่มีสเป็กตายตัวหรอกครับ เพราะของอย่างนี้ต้องค่อยๆ ดู ค่อยๆ เรียนรู้กันไป ผมไม่ได้เป็นคนชอบคนยากแต่ก็ไม่ได้ชอบใครง่ายๆ เช่นกัน โดยส่วนตัวแล้วผมชอบคนสนุกสนาน เฮฮา ไม่เครียด เพราะถ้าต้องอยู่กับคนเครียดๆ เราก็จะพลอยเครียดตามไปด้วย แต่ถ้าจะให้ระบุ และปิ๊งบ่อยๆ ก็คงเป็นสาวผิวแทนนิดๆ ยิ้มสวยๆ เหมือน Kendall Jenner หรือ Nicki Minaj
นายฮ้อย ซาลาห์ : มันเกิดจากความบังเอิญ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ผมบินไปคุยธุรกิจ ที่ Silicon Valley เมือง San Jose ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อขายโปรดักต์ใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยผลิตในยุโรป และอเมริกา แต่ดีลกับล่มไม่เป็นท่า และขณะที่กำลังเคว้งๆ อยู่ตอนนั้น เพื่อนสมัยเรียนมัธยมเห็นผมตั้งสเตตัสบนเฟซบุ๊กเพื่อระบายกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ Vdo Call เพื่อชวนผมไปทำโปรเจ็กต์ที่กำลังริเริ่ม ซึ่งผมเห็นว่าน่าสนใจและกำลังว่างพอดีเลยมาช่วยเขาทำจนถึงทุกวันนี้
นายฮ้อย ซาลาห์ : จริงๆ ผมชอบทุกคลิปนะ แต่ถ้าชอบที่สุดตอนนี้น่าจะเป็น คลิปสูตรสอนทำเงี้ยวแทนคำขอโทษที่กลั่นจากน้ำตา ผมเห็นงานที่ปล่อยออกไปก่อนหน้านี้ แล้วมี Feedback ที่ค่อนข้าง Negative ซึ่งอาจจะเป็นความผิดของผมเองที่ไม่ได้ตรวจทานให้ละเอียดก่อน ซึ่งพอเรื่องใหญ่ขึ้น ผมเลยอาสาเป็นคนทำสูตรที่ถูกต้อง เพื่อขอโทษทุกคน และรับคำติชมเพื่อพัฒนางานให้ดีต่อ ๆ ไป
นายฮ้อย ซาลาห์ : จริงๆ ผมเป็นคนกินง่ายนะ ถ้าเป็นวันปกติชอบไปดินเนอร์ที่ L’Atelier de Joël Robuchon นะ โต๊ะประจำของผมคือ Counter Bar แบบ Panorama view แต่เมนูที่ผมโปรดปราณมากที่สุดไม่ใช่ Main Course กลับเป็นเมนู Fleur Caramel ถ้วยนี้เป็นขนมที่ตรึงใจผมมากที่สุด ความหวานหอมของคาราเมลที่ท็อปด้วยผลไม้รสเปรี้ยวหวาน สัมผัสเบา กับช็อกโกแลตสีทอง และน้ำตาลกรอบ หอมมันโดนใจมาก
กลับมาที่คำถามดีกว่า… ตั้งแต่ที่ผมทำงานร่วมกับวงใน ผมชอบเมนูไก่อบฟางนะ มันเป็นครั้งแรกที่ผมได้สัมผัสกลิ่นอายของความเป็น Local ที่ทำให้ผมเข้าใจวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นที่ต่างออกไปมากขึ้น
นายฮ้อย ซาลาห์ : ผมว่าความสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำงานทุกประเภท ผมมองว่าถ้าคุณทำงานแล้วผลลัพธ์มันออกมาดีแค่ครั้ง สองครั้งผมจะบอกเลยว่ามันฟลุ๊ก แต่ถ้าคุณสร้างผลลัพธ์ที่ Impact แบบต่อเนื่อง และยืนระยาวได้ยาวนาน ผมจะบอกเลยนี่แหละคือ Skill
นายฮ้อย ซาลาห์ : ถ้าจะวัดความสำเร็จกันจริงๆ จนกว่าจะตายนั่นแหละจึงจะสรุปได้ เพราะกราฟชีวิตมีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับคำนิยามของแต่ละบุคคล แต่ถ้าถามว่าตอนนี้ผมมีความสุขไหม ผมมีความสุขมากกับงานนี้ ยังอยากที่จะพัฒนา และเรียนรู้ไปกับมันเรื่อยๆ มากกว่า
นายฮ้อย ซาลาห์ : ผมอยากให้ท่านโฟกัสกับนโยบายเรื่อง 4.0 แบบจริงจัง ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ ปัจจุบันเราต้องยอมรับแล้วว่าสังคมแบบอุตสาหกรรมนั้นไม่สามารถทำให้เราพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางเพื่อไปสู่ประเทศพัฒนาได้แล้ว พูดง่ายๆ ประเทศไทยเราต้องรีบเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจ ให้ไปสู่ “Value–Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” โดยมีฐานคิดหลัก คือเปลี่ยนจากการผลิตสินค้า “โภคภัณฑ์” ไปสู่สินค้าเชิง “นวัตกรรม” นั่นเอง
นายฮ้อย ซาลาห์ : ผมอยากจับมือกับธานอส เขามีสายเลือดของผู้มีพลังสูงส่ง เขาเป็นหลานของโครนอส เทพแห่งเวลา แต่ในตัวเขามียีนส์ที่กลายพันธุ์จึงทำให้ตัวเป็นสีม่วง อีกทั้งหน้าตายังอัปลักษณ์ จึงทำให้ดูแตกต่างจากชาวไททั่น ทำให้เขาไม่ค่อยมีเพื่อน อยู่อย่างโดดเดี่ยว ชอบทำตัวแปลกแยก ซึ่งจริงๆ ผมดูออกว่าเขาเป็นคนใจดี ผลบอล ย้อนหลัง อยากจับมือให้กำลังใจเขา ก่อนที่เขาจะลบจักรวาลทิ้ง
นายฮ้อย ซาลาห์ : อยากให้โฟกัสกับผลงาน มากกว่าหน้าตาของผม…