สมัคร UFABET

สมัคร UFABET ศึกการแข่งขันฟุตบอล 2 รายการสำคัญของ ทีมชาติไทย กำลังจะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจ สำหรับศึก ซูซูกิ คัพ 2018 และ เอเชียน คัพ 2019 (รอบสุดท้าย) โดยวันนี้เรามาดูกันว่าการแข่งขัน 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ที่เหล่าพลพรรค “ช้างศึก” มีคิวลงฟาดแข้งเพื่อชิงความเป็นหนึ่งนั้นจะมีความสำคัญเพียงใด และแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนบ้าง

เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ (AFF Suzuki Cup)

– ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียน เป็นการแข่งขันกันระหว่างทีมในภูมิภาคอาเซียน จัดขึ้นในทุกๆ 2 ปี โดย สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (AFF) เริ่มการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 เดิมใช้ชื่อ ไทเกอร์ คัพ ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักจาก สิงคโปร์ ก่อนจะมีการเปลี่ยนสปอนเซอร์มาเป็น ซูซูกิ คัพจนถึงปัจจุบัน

โดยระบบการแข่งขันของศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ เริ่มต้นจากรอบแบ่งกลุ่ม มีสองสายระหว่าง A และ B หาทีมที่ได้ แชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม เพื่อไปไขว้เจอกันในรอบ รองชนะเลิศ ซึ่งจะดวลกันแบบ เหย้า-เยือน ตั้งแต่รอบนี้จนถึงนัด ชิงชนะเลิศ และสำหรับการแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 จะเริ่มขึ้นระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน ถึง 15 ธันวาคม 2018 นี้

ทำเนียบแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ

– ทีมชาติไทย : 5 สมัย (ปี 1996, 2000, 2002, 2014, 2016)
– สิงคโปร์ : 4 สมัย (ปี 1998, 2004, 2007, 2012)
– มาเลเซีย : 1 สมัย (ปี 2010)
– เวียดนาม : 1 สมัย (ปี 2018)

สายการแข่งขัน ซูซูกิ คัพ 2018

กลุ่ม A : เวียดนาม, มาเลเซีย, เมียนมาร์, กัมพูชา, ลาว
กลุ่ม B : ไทย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ติมอร์ เลสเต

เอเชียน คัพ (AFC Asian Cup)

– เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับ เอเชีย (หรือเทียบเท่ากับศึกฟุตบอล ยูโร ของทางฝั่ง ยุโรป) ซึ่งจัดต่อเนื่องกันในทุกๆ 4 ปี ภายใต้การดูแลของ สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย เริ่มขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2499 (ค.ศ. 1956) โดยการแข่งขัน เอเชียน คัพ ในปี 2019 ได้เพิ่มโควต้าทีมที่ผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายจากเดิม 16 ทีม มาเป็น 24 ทีม ซึ่งใช้ผลของการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 (รอบคัดเลือก) มาเป็นส่วนหนึ่งในเกณฑ์การคัดทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย (จำนวน 12 ทีม) และอีก 12 ทีมมาจากรอบคัดเลือก เอเชียน คัพ

โดยระบบการแข่งขันในรอบสุดท้าย แบ่งเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม ซึ่งจะนำเอาแชมป์กลุ่ม, รองแชมป์กลุ่ม และอันดับ 3 ที่ดีที่สุดของ 4 ทีมจาก 6 กลุ่ม ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์(เล่นนัดเดียวแพ้คัดออก)ต่อไป

ทำเนียบแชมป์ เอเชียน คัพ

– ญี่ปุ่น : 4 สมัย (ปี 1992, 2000, 2004, 2011)
– ซาอุดิอาระเบีย : 3 สมัย (ปี 1984, 1988, 1996)
– อิหร่าน : 3 สมัย (ปี 1968, 1972, 1976)
– เกาหลีใต้ : 2 สมัย (ปี 1956, 1960)
– อิสราเอล : 1 สมัย (ปี 1964)
– คูเวต : 1 สมัย (ปี 1980)
– ออสเตรเลีย : 1 สมัย (ปี 2015)
– อิรัก : 1 สมัย (ปี 2007)
* ทีมชาติไทย ทำผลงานดีที่สุดในศึก เอเชียน คัพ ด้วยการจบอันดับ 3 เมื่อปี 1972 (ปีที่ไทยเป็นเจ้าภาพ)

สายการแข่งขัน เอเชียน คัพ 2019 (รอบสุดท้าย)

กลุ่ม A : สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ไทย, อินเดีย, บาห์เรน
กลุ่ม B : ออสเตรเลีย, ซีเรีย, ปาเลสไตน์, จอร์แดน
กลุ่ม C : เกาหลีใต้, จีน, สมัคร UFABET คีร์กิซสถาน, ฟิลิปปินส์
กลุ่ม D : อิหร่าน, อิรัก, เวียดนาม, เยเมน
กลุ่ม E : ซาอุดิอาระเบีย, กาตาร์, เลบานอน, เกาหลีเหนือ
กลุ่ม F : ญี่ปุ่น, อุซเบกิสถาน, โอมาน, เติร์กเมนิสถาน